สำหรับบทที่ 1 สามารถติดตามได้ทาง https://jawarajtours.com/ท่องเที่ยวเส้นทางสายไห/
นักท่องเที่ยวในทริปนี้โดยเยาวราชทัวร์ได้บินลัดฟ้าโดย เครื่องบิน China Southern Airline จากสนามบินสุวรรณภูมิไปแวะที่เมืองกวางเจาและต่อเครื่องไปเมืองหลานโจว ถึงสนามบินเวลา 20:50 น. เดินทางเข้าพักที่โรงแรมในหลานโจวชื่อ Hyatt Regency Hotel
เมืองหลานโจว (Lanzhou) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดในมณฑลกานซู่ ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีประชากรปีค.ศ. 2020 ประมาณ 4 ล้านกว่าคนอยู่ในเขตเมือง 3 ล้านคน เป็นประชากรชาวฮั่น เป็นเมืองในที่ลุมแม่น้ำฮวงโห (แม่น้ำเหลือง)

แม่น้ำฮวงโห แม่น้ำหวง หรือแม่น้ำฮวง (Huang he’) แปลว่า แม่น้ำเหลือง (Yellow River) มีสีเหลืองเพราะมีตะกอนดินทรายพัดมาจากทางตะวันตก เป็นแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับสองในจีนรองจากแม่น้ำแยงซีเกียง และเป็นอันดับ 6 ของโลกมีความยาว 5,464 กิโลเมตร (ยาวกว่าแม่น้ำเจ้าพระยา 15 เท่า) สูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,400 เมตร เกิดร่องน้ำ 3 สายที่ภูเขาเขาบาร์ยันฮาร์ มณฑลชิงไห่ อันเป็นสาขาหนี่งของเทือกเขาคุนหลุน อยู่ติดเขตทิเบต ไหลผ่าน 8 มณฑลคือ ชิงไห่ เฉสวน กานซู่ หนิงเซี่ยหุย มองโกเลียใน ฉ่านซี ชานซี เหอหนานและออกสู่ทะเลปั๋วไห่ในมณฑลซานตง ซี่งเป็นอ่าวด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนแม่น้ำฮวงโหทำให้เกิดลุ่มแม่น้ำมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งสองฝั่งแต่การเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง เกิดอุทกภัยหลายครั้งก่อเกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนมากมายมหาศาลจึงได้ฉายาว่า แม่น้ำวิปโยค

ลุ่มน้ำฮวงโหเป็นแหล่งอารยธรรมจีนแห่งแรกตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ แยกสาขาใหญ่ได้ 30 สายและสายเล็กๆ อีกมากมาย แม่น้ำนี้มีโคลนเลนและทรายมากที่สุดในโลก (เทียบได้ว่าน้ำ1ชามมีเลนอยู่ครึ่งชาม) ทำให้น้ำมีสีเหลือง น้ำที่ไหลมาถึงมณฑลกานซู่ยังใสไม่เป็นสีเหลืองจนเข้าเขตมองโกเลียในจึงเหลือง เมืองหลวงในอดีตที่ตั้งริมฝั่งแม่น้ำเหลือง เช่น นครอันหยัง นครฉางอัน (ซีอาน) เสียนหยังและไคเฟิง

หลังอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางโดยรถบัสไปถนนริมฝั่งแม่น้ำฮวงโหซึ่งไม่ห่างจากโรงแรมมากนัก
จุดแรกคือสะพานเหล็กจงซาน “หวงเหอตี๊อี๊เฉียว” แปลว่าสะพานแห่งแรกของแม่น้ำเหลือง เป็นสะพานข้ามแม่น้ำฮวงโหแห่งแรก สร้างตั้งแต่ราชวงศ์หมิงปีค.ศ. 1372 โดยซ่งกั๋วกง (เทียบเท่าเจ้าพระยา) นามเฝิงเสิ้งเดิม อยู่ทางตะวันตกของเมืองหลานโจว เป็นสะพานแบบพาดบนเรือที่ร้อยติดด้วยเชือกและโซ่ แบบลอยน้ำ ต่อมาปีค.ศ. 1376 เว่ยกั๋วกงนามเดิ้งอวี้ ได้ย้ายสะพานออกไปอีกตั้งชื่อสะพานว่าเจิ้นเหวี่ยนเฉียว ปีค.ศ. 1385 แม่ทัพหยางโจวนามหยางเหลียน ได้ย้ายสะพานมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบัน ต่อมาเหลือแค่เสาสะพานลอยน้ำเหล็กหล่อ ยาว 5.8 เมตร จำนวน 3 ต้น หนัก 10 ตัน เป็นอนุสรณ์ ปีค.ศ. 1907 ราชวงค์ชิงในสมัยนั้น พร้อมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ประจำท้องถิ่น และความช่วยเหลือจากพ่อค้าชาวเยอรมัน ได้ใช้งบประมาณกว่าสามแสนตำลึงสร้างสะพานเหล็กแห่งแรกของแม่น้ำฮวงโห โดยใช้เทคนิคของเยอรมันและอเมริกา สะพานยาว 233.33 เมตรกว้าง 7.5 เมตร ในปีค.ศ. 1942 เปลี่ยนชื่อสะพานเป็น สะพานจงซานเฉียว (สะพานเหล็กดร.ซุนยัดเซน) เพื่อระลึกถึงดร.ซุนยัดเซน บิดาแห่งจีนใหม่

เดินต่อไปที่กังหันวิดน้ำโบราณสุ่ยเฌอที่ตั้งอยู่สองฝากฝั่งของแม่น้ำฮวงโหในเขตเมืองหลันโจว มีกังหันน้ำที่สร้างขึ้นด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านเรียงรายอยู่ถึง 252 กังหันเพื่อใช้ในการผันน้ำในแม่น้ำเหลืองเข้ามาใช้ในการเพาะปลูก ทำให้หลานโจวได้สมญานามเมืองหลวงแห่งกังหันน้ำของจีน ในระหว่างทางเดินรอบริมฝั่งแม่น้ำเหลือง ไปแต่ละจุด เป็นทางที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ เช่น ต้นหลิวอันอ่อนช้อยสมญาหลิวลู่ลมสวยมาก มีการปลูกต้นไม้ดอกสวยตามทาง และมีสถานที่และรูปปั้นอยู่ตามริมทางให้ถ่ายรูป

จุดสุดท้ายคืออนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง หรือฮวงเหอหมู่ชิง (Huang He Mu Qing) เป็นผลงานของศิลปินหญิงชื่อเหอเอ้อ ตั้งอยู่ช่วงกลางถนนปินเหอหลู่ สร้างในค.ศ. 1986 ประติมากรรมนี้สลักจากหินแกรนิตยาว 6 เมตรกว้าง 2.2 เมตร สูง 2.6 เมตร น้ำหนักกว่า 60 ตัน เป็นรูปสลักหินที่เป็นสัญลักษณ์ของชนชาวจีนที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง เป็นรูปผู้หญิงนอนตะแคง ศอกดันศีรษะชัน มองดูลูกน้อยที่นอนอิงแอบอยู่ข้างๆ มารดา สายตาที่มองลูกน้อยเป็นสายตาอบอุ่น แสดงความรักลูกน้อยเป็นที่สุด รูปปั้นนี้เปรียบเสมือนแม่น้ำฮวงโหเป็นมารดาที่หล่อเลี้ยงชีวิตประชาชนจีนหลายร้อยล้านคนประดุจบุตรน้อยของตัวเอง มายาวนานกว่า 4,000 ปี ต้นธารผูกพันอย่างลึกซึ้งกับประวัติศาสตร์จีน จากนั้นรถบัสมารับไปสถานีรถไฟฟ้าหัวกระสุน (รถไฟฟ้าความแรงสูง) ไปเมืองจางเย่ เป็นขบวนรถความเร็วสูงสายจากฉางอันไปจางยี่กวน แต่เราลงก่อนที่สถานีจางเย่ ใช้เวลาเดินทางจากหลานโจวไปจางเย่ 3-3.5 ชั่วโมง
ติดตามบทต่อไปได้ที่นี่ https://jawarajtours.com/ท่องเที่ยวเส้นทางสายไห-3/
ผู้แต่ง: พญ. รุจิรา สุริยวนากุล