สำหรับบทก่อนหน้า สามารถติดตามได้ตามนี้
บทที่ 1 ข้อมูลเบื้องต้นของประเทศจีนและเส้นทางสายไหม https://jawarajtours.com/ท่องเที่ยวเส้นทางสายไห
บทที่ 2 หลานโจว http://jawarajtours.com/ท่องเที่ยวเส้นทางสายไห-2/
บทที่ 3 จางเย่ http://jawarajtours.com/ท่องเที่ยวเส้นทางสายไห-3/
บทที่ 4 เจียยี่กวน http://jawarajtours.com/ท่องเที่ยวเส้นทางสายไห-4/
บทที่ 5 ตุนหวง https://jawarajtours.com/ท่องเที่ยวเส้นทางสายไห-5
หลังจากเดินทางไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงชื่อสถานีลุยยั่วหนานเพื่อขึ้นรถไฟไปเมืองถูลู่ฟาน มณฑลซินเกียง โดยใช้เวลาในการนั่ง 3 ชั่วโมง ก็รับประทานอาหาร แล้วเข้าพักโรงแรม Turpan Shuangcheng Hotel
เขตปกครองตนเองซินเกียงอุยกูร์อยู่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเป็นเขตปกครองใหญ่ที่สุดในจีน มีพรมแดนติดกับรัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน คีร์กีสสถาน อินเดีย และทิเบต มีน้ำมันสำรองสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตแก๊สธรรมชาติใหญ่สุดของจีน สองพันปีก่อน ซินเกียงอยู่ใต้จีนที่มีความเป็นเอกภาพ 60 ปีก่อนคริสตศักราช ราชวงค์ฮั่นปกครองซินเกียงโดยตั้งองค์การบริหารเซวี่มาปกครอง ราชวงค์ชิงตั้งนายพลอีหลีมาปกครอง ในปีค.ศ. 1949 ซินเกียงได้รับการปลดแอกสถาปนาขึ้นเป็นเขตปกครองตนเองของจีน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายทากลามากัน (ถ่าเคดลาหม่ากาน) ซึ่งเป็นทะเลทรายใหญ่สุดของจีน และเป็นอันดับสองของโลกรองจากทะเลทรายซาฮารา แบ่งเป็น27เมือง มีเมืองอุรุมชี (Urumqi) เป็นเมืองหลวง ประชากรซินเกียงมี 24.9 ล้านเป็นชาวอุยกูร์ 46% ชาวฮั่น 40%คน นอกนั้นเป็นเผ่าอื่นๆ
เมืองถู่ลู่ฟาน (Turpan)เป็นเมืองสำคัญในมณฑลซินเกียง อดีตเป็นศูนย์กลางสำคัญแห่งหนึ่งของเส้นทางสายไหมสายเหนือ ที่นี่เคยมีเมืองโบราณสำคัญหลายแห่ง ปัจจุบันมีประชากร (ข้อมูลปี ค.ศ. 2003) อยู่ที่ 570,000 คน เป็นเมืองที่มีความสุดถึง 4 เรื่อง คือ
1. ร้อนสุดในจีน บางทีเกิน 40 องศาเซลเซียส อยู่ท่ามกลางทะเลทรายและความแห้งแล้ง แต่มีระบบชลประทานใต้ดินที่เป็นเลิศ
2. ต่ำสุดที่แอ่งถู่ลู่ฟาน (Turpan Depression) ใกล้เมืองถู่ลู่ฟานต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง157เมตร
3. แห้งสุดในจีน ไม่ค่อยมีฝน
4. หวานสุด เป็นที่ปลูกองุ่นได้หวานสุด นอกจากองุ่นหวานยังมีแคนตาลูปฮาร์มี่หวานอีกด้วย พุทราใหญ่มากๆ เท่าไข่เป็ดใหญ่ๆ

หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว นั่งรถไปชมระบบชลประทานน้ำใต้ดินของถูลู่ฟาน (Turpan Water System) หรืออุโมงค์น้ำคาเรช ภาษาจีนว่าคานเอ๋อจิ่ง ถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ติด 1 ใน 3 ของจีน รองจากกำแพงเมืองจีน เป็นความพยายามของมนุษย์ยุคโบราณที่คิดค้นวิธีนำน้ำใต้ดินที่เกิดจากการละลายของหิมะบนเทือกเขาเทียนชานมาใช้ โดยทำเครื่องกว้านดินขึ้นส่งคนลงไปทำทางน้ำไหลใต้ดินบางจุดลึก 80 เมตร จนได้อุโมงค์น้ำใช้เครื่องตักขึ้นมาใช้ในการยังชีพและเพาะปลูก ระบบนี้กระจายไปตามหมู่บ้านรวมระยะทาง 5,000 เมตร เชื่อมน้ำกว่าพันแห่ง หลังพัฒนาระบบคาเรซถูลู่ฟานก็อุดมสมบูรณ์ขึ้น กลายเป็นโอเอซีสกลางทะเลทรายทากลามากัน (Taklamakan Desert) กลายเป็นทางในเส้นทางสายไหมและเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน ทางเข้าดูระบบจะมีของใช้ในโบราณแสดง ไปดูบ่อแรกที่ขุดน้ำปากทางออกของน้ำและอุโมงค์น้ำที่มีน้ำใสไหลต่อกันไปที่จุดต่างๆ ทางออกเป็นจุดขายของทึ่ระลึกและมีโครงเหล็กทำทางเดินโดยปลูกองุ่นโชว์

นั่งรถออกไปทานอาหารร้านอุยกูร์ ชมการเต้นระบำและร้องเพลงโชว์แบบอุยกูร์ หลังจากนั้นนั่งรถไปเมืองโบราณเกาชาง เป็นซากเมืองโบราณขนาดใหญ่ที่สุดในจีนกว้าง 20 ตารางกิโลเมตร มีบันทึกว่าเคยมีประชากรอาศัยอยู่ถึง 3 หมื่นคนมีการแบ่งเมืองเป็น 3 เขต คือเขตราชสำนัก เขตวัด และเขตบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ยังมีร่องรอยของโรงธรรมของพระถังซั่มจั๋ง พระวิหาร พระเจดีย์ผนังอิฐสูง 8 เมตร มีช่องประดิษฐานของพระพุทธรูป แม้ปัจจุบันไม่มีพระพุทธรูปเหลืออยู่แต่เห็นภาพเขียนปรากฏหลักฐานให้เห็นเป็นพุทธอาณาจักรโบราณบนเส้นทางสายไหม โดยต้องนั่งรถของเมืองโบราณเข้าไปเพื่อไปดูลานธรรมสมัยพระถังซำจั๋ง เดินผ่านทางนี้และอยู่สอนศาสนาอยู่ 3 เดือน

นั่งรถบัสต่อไปที่ภูเขาไฟฮั่วเยี่ยนชาน ภูเขาเปลวเพลิงแห่งนี้เคยมีอุณหภูมิพื้นผิวถึง 45 องศาเซลเซียส สถานที่นี้ได้ถูกกล่าวในนวนิยายไซอิ๋ว ตอนซุนหงอคงไปยืมพัดกายสิทธิ์จากองค์หญิงพัดเหล็กมาดับไฟในภูเขาเพลิงนี้เพื่อให้พระถังซำจั๋งเดินทางผ่านไปอัญเชิญพระไตรปิฏกที่อินเดีย ภูเขานี้เป็นเขาสีแดงทั้งลูก มีต้นไม้ใบหญ้ามองไกลๆ เหมือนภูเขาทั้งลูกกำลังลุกไหม้ เดินเข้าไปลานกลางมีรูปปั้นกระบองยักษ์ของซุนหงอคง ตั้งอยู่มีที่วัดอุณหภูมิในที่สูงที่ขีด 60 องศาเซลเซียส ขึ้นไปถ่ายรูปกับรูปปั้นซุนหงอคง องค์หญิงพัดเหล็กและปีศาจกระทิง

รีบกลับออกมาเพื่อเดินทางไปยังเมืองอูรูมีฉี ไปรับประทานอาหารและพักผ่อนที่ Grand Mercure Urumqi Hotel
ติดตามบทต่อไปได้ที่นี่ http://jawarajtours.com/ท่องเที่ยวเส้นทางสายไห-7/
ผู้แต่ง: พญ. รุจิรา สุริยวนากุล