เวลาทำการ

09:00-17:00

เบอร์โทรติดต่อ

02-573-0241

สายด่วน

ตุรกี ดินแดนสองทวีป (บทที่ 2 อิสตันบูล ภาค 1)

ตุรกี ดินแดนสองทวีป (บทที่ 2 อิสตันบูล ภาค 1)

สำหรับบทก่อนหน้า สามารถติดตามได้ตามนี้

บทที่ 1 ข้อมูลเบื้องต้นของประเทศตุรกี

อิสตันบูล เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกีและทวีปยุโรป (นับรวมเขตเมืองฝั่งเอเชีย) เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศตุรกี อิสตันบูลเป็นเมืองเชื่อมทวีปยูเรเชียโดยตั้งระหว่างช่องแคบบอสพอรัส (ซึ่งแยกยุโรปและเอเชีย) ระหว่างทะเลมาร์มาราและทะเลดำ เมืองอิสตันบูลมีชื่อเสียงทางด้านศูนย์กลางการค้าและประวัติศาสตร์ของฝั่งยุโรป ประมาณหนึ่งในสามของประชากรอาศัยอยู่ทางอานาโตเลียหรือฝั่งทวีปเอเชีย โดยมีประชากรทั้งหมดประมาณ 15 ล้านคน อิสตันบูลเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยจัดว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกและเป็นเมืองในยุโรปที่ใหญ่ที่สุด อิสตันบูลถือว่าเป็นสะพานเชื่อมระหว่างซีกโลกตะวันออกและตะวันตก

หลังเดินทางมากว่า 10 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบินอิสตันยูล แล้วก็เดินทางต่อไปยังวิหารเซนต์โซเฟีย หรือสุเหร่าเซนต์โซเฟียก็ได้ เนื่องจากเดิมเป็นวิหารในศาสนาคริสต์ แต่ภายหลังโดนจับมาปะปูนใหม่ให้กลายเป็นสุเหร่า และที่นี่ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเซนต์โซเฟียแม้แต่น้อย เพราะชื่อนี้ตั้งขึ้นโดยมีความหมายว่า “โบสถ์แห่งความรู้อันศักดิ์สิทธิ์” ปัจจุบันถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ คือ ไม่มีคาน ไม่มีเสา และโดมมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของโลก

เดินไม่ไกลก็ถึง Topkapi Palace (Harem) เป็นที่พักอาศัยของสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมัน รวมไปถึงฮาเร็มด้วย ซึ่งสามารถบรรจุผู้หญิงได้ถึง 300 คน ฃ

เดินต่อไปอีกไม่ไกล ก็จะพบกับสุเหร่าสีน้ำเงิน หรือสุเหร่าสุลต่านอาเหม็ด มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี สร้างโดยสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน ด้วยวัตถุประสงค์คือเอาชนะวิหารเซนต์โซเฟียให้ได้ โดยได้นำสถาปัตยกรรมของวิหารเซนต์โซเฟียมาผสมผสานกับศิลปะสไตล์อิสลาม มีขนาดที่บรรจุคนได้ถึงแสนคน ส่วนชื่อนี้ก็ได้จากการประดับกระเบื้องภายในที่เป็นสีน้ำเงิน

เดินออกไปอีกนิดจะพบกับฮิปโปโดรม หรือจตุรัสสุลต่านอาเหม็ด เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอดีต เพราะเป็นสนามแข่งม้า ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะ ปลายสวนมีเสา 3 ต้น ต้นแรกเป็นเสาโอเบลิสค์ ที่มีการแกะสลักและคำบรรยายด้วยตัวอักษรอียิปต์โบราณ เสาที่สองเป็นเสางู ส่วนหัวงูและหม้อโดนขโมยไปแล้ว เสาสุดท้ายเป็นเสาโอเบลิสค์ที่มีร่องรอยการโดนขูดขโมย

หลังจากนั้นก็นั่งรถเพื่อข้ามทวีปกลับไปยังเอเชีย

ติดตามบทต่อไปที่

บทที่ 3 ชานัคคาเล่